Tuesday, November 29, 2011

เทคนิคการใช้ MS PowerPoint ในการสร้าง Slide เพื่อนำเสนอ ในหน้าจอ Notebook หรือ LCD TV ต่างๆ แบบเต็ม 16:9

เพื่อนๆ ทุกคนก็คงเคยที่ว่า ต้องทำ PowerPoint ไป present งานต่างๆ
ดดยอาจจะมีการฉายต่อเข้า Projector หรือต่อเข้า Port HDMI ของ TV ต่างๆ
ซึ่ง TV สมัยนี้ หรือ Notebook ส่วนใหญ่ก็จะเป็นขนาด 16:9
เมื่อเราทำ PPT ไป present ปกติเราก็จะได้ ภาพที่ฉายประมาณแบบนี้ครับ
 
คราวนี้ถ้าเพื่อนๆสังเกตดีดี จะเห็นว่า มีพื้นที่สีดำ ที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์นะครับ วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับที่คนไม่ค่อยรู้กัน ซึ่งที่จริงมันก็แค่ปรับการทำงานนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ
อันดับแรกเลย เราก็เข้าไปที่เมนู ออกแบบ ตามรูปด้านล่างเลยครับ
จากนั้น ไปกดตั้งค่าหน้ากระดาษ แล้วก็เลือกขนาดภาพนิ่ง ตามภาพเลยครับ
 
คราวนี้ เมื่อเราปรับตามด้านบนแล้ว เราก็จะได้ แบบนี้ เวลา present ครับ สุดยอดมั้ย ลองไปเทียบกับรูปเดิมก่อนปรับดูนะครับ

Monday, November 28, 2011

วิธี Backup และ Restore ข้อมูล iPhone ด้วย iTunes

อันนี้ไว้ให้สำหรับมือใหม่อ่านเลยนะครับ ^^

มาดูขั้นตอนการสำรองข้อมูลกันครับ ทำได้ง่ายมากๆครับ ต้องบอกให้รู้ก่อนว่าการสำรองข้อมูล (backup) นั้นทำได้หลายวิธีครับ แต่ที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือการ backup ผ่านโปรแกรม itunes ขั้นตอนง่ายๆดังนี้ครับ
ข้อควรจำ


ข้อมูลที่ itunes จะสำรองเอาไว้คือ
information as mail settings, text messages, notes, call history, contact favorites, sound settings, widget settings, certain network settings, and other preferences including settings and data from third-party applications purchased from the App Store.


ขั้นที่ 1 เชื่อมต่อ iphone เข้ากับคอมพิวเตอร์แล้วเปิดโปรแกรม itunes
ขั้นที่ 2 ที๋โปรแกรม itunes เราจะเจอ iphone ที่เราเชื่อมต่อกับคอมแล้ว จากนั้นคลิกขวาที่ iphone ครับ จากนั้นเลือก BackUp


ขั้นที่ 3 จากนั้น itune จะเริ่มทำการสำรองข้อมูล อาจจะใช้เวลานานพอสมควร ขึ้นอยู่กับขนาดของข้อมูลที่อยู่ใน iphone ของคุณ
backup-iphone-by-itune-2
เมื่อเสร็จสิ้นการสำรองข้อมูลแล้ว เมื่อคุณเชื่อมต่อ iphone กับ itunes ในครั้งหน้า เจ้า itunes จะถามว่าต้องการ restore ข้อมูลที่ backup เอาไว้ไหม ถ้าต้องการก็ตอบ Yes ถ้าไม่ก็ตอบ No เท่านั้นเองครับ ง่ายๆครับ (-:

Update: เพิ่มเติมการ Restore
ทุกครั้งที่ iPhone เชื่อมต่อเข้าเครื่องคอมและเปิด iTunes จากนั้นมันจะมีการ backup แบบออโต้หรือตอนที่เราสั่งซิงก์อะไรใหม่ๆมันก็จะ backup  เอาไว้ ตอนนี้หากเราต้องการจะ restore ข้อมูล มีวิธีการง่ายดังนี้


ระวังให้ดีที่ช่อง iPhone Name:
ต้องเลือกให้ตรงนะว่าเป็นเครื่องเราจริงและดูด้วยว่าเป็นช่วงเวลาวันไหนที่เราต้องการจะรีสโตร์กลับ
แล้วกด restore

รอประมาณ 10 นาทีหรือขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เรามีอยู่เท่านี้ก็จะเสร็จครับ

ข้อมูลที่จะกลับมาก็คือพวก sms, contact, call history, การตั้งค่าของเครื่องอย่างพวก network wifi ต่างๆ ส่วน app นั้นจะมาบ้างแต่ไม่ครบ ตรงนี้ไม่เป็นไรเราค่อย sync app อีกครั้งก็ได้นะครับ
ที่สำคัญคืออยากให้ทุกท่านดาวน์โหลด app ต่างๆภายใต้ apple id ของตัวเองนะครับ

ที่มา http://www.iphonemod.net/

สร้าง Toggle ง่ายๆ ไม่ต้อง Jailbreak ไม่เสียเงิน

รู้นะว่าชอบของฟรี แม้แต่เสียเงิน 0.99$ ก็ไม่อยากจะเสียกัน
วิธีนี้คงจะถูกใจกันล่ะครับ เพราะไม่ยุ่งยากสำหรับคนที่ไม่อยากเจลเบรคไปลง sbsettings  และไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ Icon Project ราคา 0.99$ ใน Appstore
วิธีนี้ถูกสร้างและพัฒนาโดนคุณ Jeff Broderick นะครับ ใครถูกใจก็ช่วยกดบริจาค เพื่อเป็นกำลังใจให้นักพัฒนาดีๆ แบบนี้กันด้วยนะครับ
ไปดูรูปตัวอย่างกันครับ




วิธีทำ (ใช้ได้กับ iOS 5 ขึ้นไปเท่านั้น)
1. เข้า Safari  พิมพ์ http://brdrck.me/settings จะเจอรูป icon เพียบ
2. เลือก icon ที่ต้องการจะทำเป็น Toggle
3. กด Install Shortcut
4. กด Install >> Install Now >> Done

5. Enjoy your Toggle
หากยังไม่เข้าใจ ให้ดูวิดีโอ Review ของคุณอุ้มประกอบครับ

  
วิธีลบ Toggle ให้ไม่หลงเหลือในเครื่อง
ให้เข้าไปที่ Setting > General > Profile > เลือก Toggle ที่ติดตั้งไว้แล้ว > Remove > Remove > Done

ขอบคุณ Review ดีๆ จาก http://iaumreview.com
ขอบคุณ  Jeff Broderick สำหรับเทคนิคดีๆ ครับ
ขอบคุณที่มา http://www.iphonemod.net/

Hacker ปล่อย Siri dictaion สำหรับ iPhone 3gs, iPhone 4 และ iPod touch 4 มาให้ใช้กันถ้วนหน้าครับ


นักพัฒนานาม Eric Day ได้ปล่อย siri0us, package สำหรับ iOS เพื่อ เปิดใช้งาน ฟังก์ชั่น Siri dictation โดยนักพัฒนาคนดังกล่าวได้แจ้งข่าวของเขาผ่าน Twitter

ซึ่ง siri0us ตัวนี้นั้น จะสามารถทำให้คุณ ใช้ Siri ผ่านnoteได้ เช่นคุณต้องการจะเขียนข้อความลง note แต่ขี้เกียจพิม คุณก็จะสามารถพูด แทนการพิมได้นั่นเองครับ

โดยการที่จะลง ตัว Siri dictation สู่เครื่อง iDevice ของคุณนั้น iDevice ของคุณจะต้องผ่านการ เจลเบรกเสียก่อน ทำได้โดยเข้า Cydai แล้ว install package จาก http://apt.if0rce.com และรายงานขั้นต้นบอกไว้ว่า Siri0us อันนี้ ทำงานกับเฉพาะ iPhone 4, iPhone 3gs และ iPod touch 4 เท่านั้น

ที่มา : http://th.yoursn0w.com/ ,http://iclarified.com/

Sunday, November 27, 2011

วิธี Jailbreak iOS5.0-5.0.1 ด้วย Ac1dsn0w b1 [Tethered]

สำหรับการเปิดตัวนี้ ก็มาใน beta1 สำหรับ Mac OS X Lion เท่านั้นด้วยนะครับ Windows รอต่อไปครับ (แต่ทาง blog บอกว่า น่าจะรองรับ Sn0w Leopard)
พูดถึงตัวนี้ แทบจะไม่มีความต่างอะไรจาก Redsn0w หรือ sn0wbreeze เลยครับ เพราะยังไงก็ Tethered และยังไม่รองรับ iDevice ตระกูล Chip A5 อยู่ดี

หากท่านใดอยากลอง มาดูกันเลยครับ
ก่อนอื่น ก็โหลด Ac1dSn0w จาก ที่นี่ ก่อนครับ







  • หลังจาก download แล้ว ให้ทำการ เปิดขึ้นมา จะเจอแบบนี้ครับ

















  • สามารถกด Show Console เพื่อเช็คค่าต่างๆของเครื่องเราได้ครับ [ตัวอย่าง]











  • ส่วน Aissistant จะเป็นตัวช่วยในการเข้า DFU mode ครับ


  • เมื่อต่อ Device แล้ว ทำการกด Show Assistant เพื่อทำกรเข้า DFU mode ครับ
    **แต่ถ้าชำนาญการเข้าแล้ว ไม่จำเป็นที่จะกด assistant นะครับ กด Jailbreak ได้เลย






  • หลังจากเข้า DFU mode แล้ว กด Jailbreak ได้เลยครับ!





  • หลังจากที่เครื่องติด ให้ทำแบบเดิม คือ เข้า DFU mode แล้วกด Just Boot ครับ เท่านี้ก็เรียบร้อย!




  • ที่มา : http://th.yoursn0w.com

    Samsung ออกโฆษณาเยาะเย้ย Apple

    Samsung จัดการส่ง โฆษณา Samsung Galaxy S2 ตัวใหม่ ซึ่ง ตามโฆษณานี้ ผมวว่ากวนโอ๊ยนะ โฆษณาข่มเลยว่า “เออ เนี่ย ของข้าจะใหญ่กว่าเอ็งนะ ขนาดจอก็ใหญ่กว่า!” เป็นโฆษณาที่เป็นตอนมีคนเข้าคิวรอซื้อ iPhone ครับ ยังไงก็มารับชมกันครับ

    ขอบคุณที่มา : http://th.yoursn0w.com

    iCloud คืออะไร? แล้วจะนำมาใช้กับ iPhone, iPad และ iPod touch ได้อย่างไร

    หลายๆคนพอลง OS5 เสร็จก็เริ่มสงสัยว่า iCloud มันคืออะไรกันแน่ มาดูกันครับ
    ก่อนอื่นลองตัดตัว “i” ออกไปก่อนครับ เหลือคำว่า “Cloud” แล้ว Cloud คืออะไร? Cloud ก็คือเมฆ หรือกลุ่มเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า คน 2 คนอาจมองเห็นก้อนเมฆก้อนเดียวกัน แต่อยู่คนละที่กันได้ ไม่ต้องยืนติดกัน เผลอๆ ห่างกันหลายกิโลเมตรยังมองเห็นก้อนเมฆเดียวกันได้เลย แล้วถ้าก้อนเมฆก้อนนั้นเป็นถุงเก็บข้อมูลอะไรก็ได้ ที่เราสามารถโยนขึ้นไปเก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์รูปถ่าย, วิดีโอ หรือข้อมูลอะไรก็ได้ที่เรามีอยู่ ก็คงจะเป็นการดี เพราะคนอื่นคงมองไม่เห็นไฟล์นั้น แล้วถ้ามีหลายคนต่างพากันโยนข้อมูลตัวเองขึ้นไปบ้างหละ? แน่นอนครับ ย่อมมีการจัดสรรปันส่วนและเข้ารหัสกันให้ถูกที่ถูกคน
    คงจะพอมองเห็นภาพลางๆ กันได้บ้างแล้ว ทั้งหมดที่อ้างมา จะหมายถึงระบบ Cloud Computing เพราะเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลกับกลุ่มเมฆที่ว่านั้น หรือเรียกว่า “การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ” ซึ่งเป็นลักษณะการทำงานของผู้ใช้คอมพิวเตอร์โยนข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตขึ้นไปบนระบบ Cloud ซึ่งระบบ Cloud จะทำหน้าที่จัดสรรปันส่วนทรัพยากรให้กับผู้ต้องการใช้งาน โดยจะทำงานในลักษณะของเว็บแอปพลิเคชั่น (web application) ผู้ใช้งานจะทำงานผ่านเว็บบราว์เซอร์ ขณะที่ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ (Apple)
    ส่วนคำว่า iCloud จะเป็นตราสินค้าหรือคำเรียกบริการของ Apple ที่มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้ว และเป็นผู้ถือสิทธิ์ห้ามบุคคลอื่นนำไปใช้ซ้ำอีกตามระยะเวลาที่ระบุไว้

    iCloud ของ Apple สำหรับ iOS 5 มีวิธีทำงานอย่างไร?

    Apple นำระบบ Cloud มาใช้กับการระบบปฏิบัติการ iOS 5 เพื่อเก็บข้อมูลไฟล์เพลง, รูปภาพ, โปรแกรม, ปฏิทิน, เอกสารต่างๆ และไฟล์ข้อมูลอื่นๆ ผ่านทาง Wi-Fi แล้วจะนำมาใช้กับ iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ PC ได้อย่างไร? มีขั้นตอนดังนี้

    • iTunes in the Cloud – เพลงที่คุณซื้อผ่าน iCloud จะสามารถฟังผ่าน iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ PC ได้ เช่น ซื้อเพลงผ่าน iPhone แล้วฝากไว้กับ iCloud เมื่อคุณใช้เครื่อง iPad ก็สามารถเรียกเพลงนั้นมาฟังที่ iPad ได้เหมือนกัน
    • Photo Stream – จะทำงานลักษณะเดียวกับการซื้อเพลง คือ เมื่อเราฝากรูปไว้กับ iCloud อุปกรณ์อื่นๆ ก็สามารถเรียกดูรูปนั้นได้เหมือนกัน
    • Contacts, Calendar และ Mail – iCloud จะเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ และแจ้งเตือนหรือ Push เตือนไปยังทุกอุปกรณ์ที่กำหนดไว้ ดังนั้นใช้เครื่องไหนก็อัพเดทเหมือนกัน
    โดย Apple จะจัดสรรพื้นที่ให้ใช้ฟรีถึง 5GB

    มาดู VDO กันครับ

    ขอบคุณที่มา : http://www.imaicafe.com/

    Saturday, November 26, 2011

    3D street art ฝืมือ Joe Hill and Max Lowry สุดยอดมาก


    อันนี้เป็นเว็บที่ เกี่ยวกับของ Joe Hill and Max Lowry เลยครับ http://www.3djoeandmax.com/ ใครสนใจเข้าไปดูได้เลยนะครับ

    มาดูรูป 3D street art กันดีกว่า สุดยอดทั้งนั้น ผมอยากไปถ่ายรูปแบบนั้นมั้งจัง ^^








    และสุดท้ายมี VDO มาให้ชมกันนิดหน่อยนะครับ

    Posixninja จะประกาศบางสิ่งที่ “น่าตื่นเต้น” ในคืนนี้!? Untethered iOS5 และ Jailbreak iPhone 4S ,iPad2??

    รอกันเพลินแล้วนะครับ สำหรับ Untethered iOS5 และ Jailbrek iPhone 4S และ iPad2 และนี่คือ ข่าวครับ ทาง @p0sixninja ได้ tweet ไว้อย่างนี้ครับ
    P0sixninja เป็นสมาชิกหลักในกลุ่ม Chronic Dev Team ซึ่งได้ปล่อย Greenpois0n สำหรับ Jailbreal untethered ทั้ง iOS4.1 และ 4.2.1 ซึ่ง ในคืนนี้ เราอาจจะได้เห็นอะไรเจ๋งๆจาก @p0sixninja ก็ได้ หรือว่าจะเป็น Untethered iOS5!! 

    Credit: http://th.yoursn0w.com/

    ต้องรอติดตามกันดู นะ ครับ 
    แต่โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่าจะใช่ ตามข่าวลือที่ปล่อยกันมา

    สุดยอด 10 มหาเศรษฐี ระดับโลก ที่เรียนไม่จบมหาวิทยาลัย

    เป็นเรื่องที่แปลกแต่จริงนะครับ คำว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น บาง ครั้งไม่ต้องจบระดับปริญญาก็สามารถประสบความสำเร็จได้ เพียงแค่มีโอกาส ความเชื่อ และความพยายาม ตัวอย่าง 10 คนดัง ต่อไปนี้ที่ก้าวข้ามคำว่าใบปริญญาและประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่ตนเองได้ เลือกเอง


    1. ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) : ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Virgin
    ด้วย ภาพลักษณ์นักธุรกิจนอกกรอบ ตำราไหนว่าแน่พี่ขอแหก เสาะแสวงหาความท้าทาย ในการดำเนินชีวิตและธุรกิจ เลิกเรียนตั้งแต่อายุ 16 มาเอาดีด้วยการทำนิตยสารสำหรับนักเรียนเป็นธุรกิจ ค่อยๆ ขยายธุรกิจอื่นๆ มากมาย ไม่เว้นแม้แต่สายการบิน เป็นเพลย์บอยแถมรวยภาพที่ปรากฏก็เลยแสบๆ อย่างที่เห็น



    2. โคโค แชลแนล (CoCo Chanel) : ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Channel
    เธอ เกิดมากำพร้า เริ่มอาชีพเป็นเพียงช่างเย็บผ้า ในยุคที่สตรีต้องตัดชุดสตรีเท่านั้น แชนแนลผลักดันตัวเองอย่างกล้าหาญด้วยการออกแบบเสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย ด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและผสมผสานเนื้อผ้า สร้างเอกลักษณ์ให้ผลงานของเธอ แต่ที่สร้างชื่อให้เธอเป็นที่จดจำตลอดกาลคือ คือ น้ำหอม แชนแนลหมายเลข 5 อันโด่งดังนั่นเอง



    3. ไมเคิล เดลล์ (Michael Dell) : ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Dell
    ไป ไหนก็จะเห็นคอมพิวเตอร์-โน้ทบุ๊คยี่ห้อ Dell กันใช่ไหม ผู้ก่อตั้งคือ ไมเคิล เดลล์ เขาหยุดเรียนตั้งแต่อายุ 19 มาก่อตั้งบริษัท PC's Limited ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Dell, Inc และผันตัวเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จ มากที่สุดในโลก ในปี 1996 เดลล์ได้มอบทุนให้มหาลัยเทกซัสจำนวน 50 ล้านเหรียญ (ราวๆ 2,000 ล้านบาท) เพื่อยกระดับสุขภาพและการศึกษาของเยาวชน



    4.เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) : ผู้ก่อตั้ง Ford Motor
    เขา ออกจากบ้านตอนอายุ 16 ปีเพื่อเป็นช่างยนต์ ภายหลังก่อตั้ง บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ดำเนินอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ซึ่งรถที่ประสบความสำเร็จครั้งแรกคือรุ่น Ford Model T ผลกำไรทำให้ขยายกิจการ และริเริ่มวางสายการผลิตแบบอัตโนมัติ



    5. บิล เกตส์ (Bill Gates) : ผู้ก่อตั้ง Microsoft
    ติด อันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกปี 1995 - 2006 ช่วงวัยรุ่นหยุดเรียนเพราะมุ่งมั่นมากที่ จะตั้งบริษัทผลิตซอฟท์แวร์ ชื่อความหมายเล็กจิ๋วว่า บริษัทไมโครซอฟท์ รวยล้นฟ้าแล้วยังใจบุญ เพราะครอบครัวบิลก่อตั้ง มูลนิธิ บิล & มาลิดา เกตส์ คอยช่วยเหลือด้านการศึกษาและสุขภาพแก่คนทั้งโลก



    6. สตีฟ จ็อปส์ (Steve Jobs) : ผู้ก่อตั้งและสร้างความยิ่งใหญ่ ให้แบรนด์ Apple
    เรียน มหาวิทยาลัยได้เทอมเดียวก็ไปทำงานให้กับ บริษัท อาตาริ ก่อนที่จะควบรวมเป็น บริษัท แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ แต่ชื่อมันยาว เดี๋ยวนี้เลยตัดเหลือเพียง แอปเปิ้ล แบรนด์ล้ำๆ ที่ทำให้คนทั้งโลกคลั่ง กับผลงานล่าสุดอย่าง iPad และ iPhone 4 ครั้งหนึ่งสตีฟ จ็อปส์เคยเป็น CEO ให้ Pixar ก่อนที่จะควบรวมกับ วอลท์ ดีสนีย์



    7. เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) : ผู้กำกับระดับออสการ์
    หยุด เรียนตอนปี 2 ไปทำงานรับจ้างทั่วไป ทั้งขับรถบรรทุกและงานเขียน ระหว่างนั้นก็พยายามเรียนด้าน สเปเชียล เอฟเฟค ด้วยตนเอง จากวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาในห้องสมุด หลังจากดูหนัง สตาร์วอร์ จึงเลิกขับรถบรรทุก ไปหางานในวงการภาพยนตร์ทำ จากงานผู้ช่วย ก็ผันมาเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานที่กลายเป็นตำนาน อย่าง คนเหล็ก 2, ไททานิค และ ภาพยนตร์ 3D สุดอลังการอย่าง อวาตาร



    8.เลดี้ กาก้า (Lady Gaga) : นักร้องซุปเปอร์สตาร์ หลุดโลก
    กว่า จะเป็นราชินีเพลงป๊อปแดนซ์และเจ้าแม่แฟชั่นหลุดโลกคนนี้ เธอหัดเปียโนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เริ่มเขียนโน้ตเปียโนตอน 13 พออายุ 17 ปีก็แต่งเพลงเอง จนกระทั่งปีสองเทอมสอง เธอหยุดเรียนและหันไปเอาดีในอาชีพดนตรี ด้วยเงินเพียงน้อยนิด จนประสบความสำเร็จในชื่อ "เลดี้ กาก้า" ที่ทั้งโลกรู้จัก ชื่อที่ผันมาจากชื่อเพลง "เรดิโอ กา ก้า"



    9. ไทเกอร์ วู๊ดส์ (Tiger Woods) : อดีตนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลก
    เล่น กอล์ฟตั้งแต่เดินได้ โชว์วงสวิงให้โลกตะลึงตอนอายุ 2 ขวบ เอาชนะพ่อตัวเองได้ตอน 11 ขวบ หลังจากคว้าแชมป์รายการดังมากมาย จึงตัดสินใจหยุดเรียนและเปลี่ยนเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ ขณะอยู่ปี 2 ผูกขาดตัวเองเป็นนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกมานานหลายปี



    10. มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) : ผู้ก่อตั้ง Facebook
    ผู้ ก่อตั้ง Facebook ที่คนทั้งโลกติดกันงอมแงม พัฒนาเฟสบุ๊คกับเพื่อนร่วมชั้น ตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ที่ ฮาวาร์ด หลังจากที่เฟสบุ๊คได้รับความนิยมและทำเงินมหาศาล ก็หยุดเรียน เพื่อเป็นผู้บริหารของเฟสบุ๊คเต็มตัว ปัจจุบันเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก
    ที่มา : http://blog.eduzones.com/magazine/85003

    Friday, November 25, 2011

    Install Whatsapp บน iPad แบบไม่ต้องเจลเบรก

    หลายๆท่าน อาจจะเคยหาวิธีสำหรับการลง Whatsapp ลง iPad นะครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราก็ลงจาก installous ได้เลย รวมถึง iPod Touch ด้วย แต่ตอนนี้ คงจะไม่ได้แล้ว เพราะ มันจะฟ้องว่า ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ server ได้ (ประมาณนั้น)

    สำหรับวันนี้ ผมก็ขอนำเสนอ วิธีการลง whatsapp บน iPad โดยที่ไม่ต้องเจลเบรกครับ!

    วิดีโอตัวอย่าง

    วิธีทำ
    1. ต้องมี iPad iOS อะไรก็ได้ ไม่ต้องเจลก็ได้ แต่ต้องเป็น เครื่องเปล่า แบบพึ่ง Restore เสร็จอะไรแบบนี้
    2. ลงแอป UDID Tools
    3. แล้วก็ต้องมี iPhone เครื่องเปล่าเช่นกัน ลง WhatsApp ห้ามเปิด Whatsapp เด็จขาด
    4. เจลไอโฟนซะ แอด Source repo.insanelyi.com แล้วลง UDID Faker
    5 .กลับไปที่ iPad เปิดแอป UDID Tools แล้วกลับมาที่ iPhone เปิดแอป UDID Faker แล้วเลือก WhatsApp
    6. ใส่ UDID ที่โชว์ในแอป UDID Tools บน iPad แล้วกด Save ไป แล้วออกมา
    7. เปิด WhatsApp ใส่เบอร์ลงไป รอ Code ใส่แล้วใส่ชื่อ กด Done รอรีเฟสเพื่อนๆเราเป็นอันเสร็จ

    8. เอาไอโฟนไปเสียบกับคอมครับ คลิกขวาที่ iPhone ของเรา กด Backup จากนั้น รอรอรอ เสร็จดึงออกครับ
    9. เข้าแอป UDID Faker ไปที่ WhatsApp แล้วคืนค่า UDID ของเครื่องเราครับ เป็นอันเสร้จสำหรับไอโฟน
    10. เอาไอแพดต่อคอม คลิกขวาเลือก Restore form backup แล้วเลือกไปที่ ไฟล์ Backup ของ iPhone เมื่อครู่
    11.รอมันรีจนเสร็จ พอเปิดมาครับ เข้าไปที่แถบแอปในไอแพด ลงแอปอะไรก็ได้ สองถึงสามตัวขึ้นไป
    12.พอลงเสร็จกดเข้าไปที่ไอแพด ลองกดดูว่าแอปสามารถเปิดได้ไม่เด้งเป็นอันโอเค
    13.จากนั้นเข้า Google โหลดโปรแกรม ifunbox มาลงบนคอมครับ แล้วเปิดขึ้นมา
    14.คลิกที่เครื่องเราแล้วกดปุ่ม Install App [AppFastIn] แล้วจะมีหน้าต่างใหม่เปิดขึ้นมา
    15.เข้า C:\Users\[User]\Music\iTunes\iTunes Media\Mobile Applications คลิกที่ WhatsApp 2.6.7.ipa
    16.กด open จากนั้นรอมันติดตั้งบนเครื่องครับ

    17.พอเสร็จแล้วก็จะสามารถใช้งาน Whatsapp บน iPad 2 iOS อะไรก็ได้โดยไม่ต้องเจลครับ หวังว่าจะเข้าใจนะ ^^
    ปล ทำได้เฉพาะคนที่ซื้อ WhatsApp แท้เท่านั้นนะครับ ใครโหลดมาจากเวปใช้ไม่ได้นะขอบอกไว้ก่อน
    Credit : http://th.yoursn0w.com/

    วิธีการติดตั้ง Siri สำหรับ iOS5.0.1

    คงจะเป็นสิ่งหนึ่ง ที่ทุกคนรอนะครับ
    สำหรับการลง siri ก่อนหน้านี้ จะเป็นไปอย่าง ยากลำบากเลยครับ ต้องลงแบบ manual และ set permission อีก แต่สำหรับวิธีต่อไปนี้ ง่ายๆเลยครับ
    สำหรับ Siri ตัวนี้ ยังไม่ Connect กับ server นะครับ มีไว้เท่ๆก่อน

    Siri ตัวนี้ support
    1. iPhone 3Gs
    2. iPhone 4
    3. iPod Touch Gen 4
    รายละเอียดเพิ่มเติม Siri for iOS5.0.1 version 1.0.5.deb
    • Fix error ใน iPhone 3Gs
    • ห้าม reinstall Mobilesubstrate
    • เตรียมพร้อมสำหรับการเชื่อมต่อ Proxy Server
    • fix ครั้งสุดท้าย
    • สามารถใช้บน iPad ได้ (เป็น beta สำหรับ Dev เท่านั้น!)
    วิธี install
    1. เปิด Cydia
    2. ทำการ add source >> http://cydia.iLoveiDevice.tk/
    3. ติดตั้ง Siri For iOS5.0.1
    4. reboot เครื่อง (ทำ tethered boot ครับ)
    5. ทำการเปิดใช้ siri โดยไปที่ setting/general/siri/turn on
    6. เปิด iFile
    7. เข้าไปที่ var/mobile/Library/Preferences
    8. หาไฟล์ที่ชื่อว่า com.apple.assistant.plist
    9. เปิดแบบ Text Viewer ครับ
    10. ลบตัว s ที่อยู่ตรง https://guzzoni.apple.com
    ขอบคุณที่มาครับ : http://th.yoursn0w.com

    Thursday, November 17, 2011

    วิธีย้าย App ที่ App2sd ย้ายไม่ได้ ลง SD card โดยไม่ต้อง root

     โปรแกรมที่ต้องใช้
    1.โปรแกรม 91 PC Suite For Android คลิ๊กที่นี่ กด Fast Dowload
    2.APP2SD รุ่นใหม่ๆ หาโหลดได้ที่ Market


    คำเตือน
    1.การนำ APP ลง SD ตอนเปิดจะช้าเล็กน้อย
    2.ไม่ควรจะย้าย Widgets เพราะมันจะหาย
    3.APP ที่ย้ายไม่ได้ คือ Market และ Map นอกนั้นย้ายได้หมด


    วิธีการทำ
    1.โหลด โปรแกรม 91 PC Suite For Android
    2.ติดตั้งโปรแกรมโดยไม่ต้องสนใจภาษา
    3.เสีบยสาย USB มือถือ ต่อกับคอม
    4.เปิดโปรแกรมขึ้นมาเป็นภาษาจีน อย่าพึ่งตกใจไปมันเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้โดยกดที่น้องแอนดอยแล้วกดเป็น English


    5.ไปที่เมนู system เลือก APP



    6.จะขึ้นหน้านี้ขึ้นมาให้กด SD Card


    ก็เสร็จขั้นตอนที่ทำในคอมแล้วจากนี้เป็นขั้นตอนที่ทำในมือถือ
    7.เปิด APP2SD ขึ้นมารอมันโหลดแปปนึง มันก็จะขึ้น APP ที่ย้าย ไป SD ได้


    8.อยากย้ายอันไหนก็กดเข้าไป แล้วเลือก ย้ายไปยัง SD Card


    เรียบร้อยแล้วครับ



    ย้ายเท่าทีจำเป็น อย่าย้ายหมดนะครับ
    Credit : http://www.thaiandroidphone.com/