Apple โดยงานนี้เองมีทีเด็ดเพิ่มเข้ามา
231 New Features และ 10 Keys Features
Apple ได้จัดงาน WWDC 2011 ขึ้นเพื่อบอกกล่าวสู่ Developer ถึงเรื่องอนาคต ของสิ่งต่างๆที่ Apple จะทำ โดยในงานมี 3 เรื่องเด็ดๆ ก็คือในส่วนของ MAC OSX Lion, iOS5 และ iCloud ซึ่งถือว่าเป็น 3 อย่างที่มีความน่าสนใจ แต่เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ โทรศัพท์มือถือจึงขอหยิบยกเรื่องของ iOS5 ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แย่างมาบอกกล่าวกันเพียง อย่างเดียว งานนี้เองพ่องานก็คือเจ้าเก่าอย่าง Steve Jobs ที่ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยอะไรและมาเปิดงาน จนได้ แต่ตัวผอมลงไปพอสมควร เริ่มงานด้วย การ Intro เข้าสู่ประเด็นหลักที่จะ บอกกล่าวกันในวันนี้ก็คือ 3 อย่างที่ว่าไปตามด้านบน ซึ่งก็เริ่มด้วย Mac OSX Lion และ ตามด้วย iOS5 ที่ทาง Steve Jobs ให้ทาง Scott Fostall ซึ่งถือเป็น Senior Vice President ทางด้านของ iOS ขึ้นมาบอกกล่าวว่า iOS5 มีทีเด็ดอะไรบ้าง ซึ่งเริ่มจากการอัพเดทข่าว คราวของ iOS ว่ามียอดไปถึงไหนแล้ว เริ่มจาก - iOS ขายได้ไปทั่งหมดกว่า 200 ล้านเครื่องทั่วทั้งโลกแล้ว - iOS มีส่วนแบ่งการตลาด OS มากที่สุดอยู่ที่ 44% ทั่วโลก - Apple iPad ขายได้มากถึง 25 ล้านเครื่องในเวลาเพียงแค่ 14 เดือน - มี 15 พันล้านเพลงที่ขายไปแล้วผ่าน iTunes store - มีการ Download หนังสือบน iBook Store กว่า 130 ล้านครั้ง - iPad มี Apps ทั้งหมด 90,000 Apps - Apps ทั้งหมดบน App Store มีมากถึง 425,000 Apps - มีการดาวน์โหลดมากถึง 14 พันล้านครั้งผ่าน App Store - ทำรายได้ให้กับ Developer ไปแล้วกว่า 2500,000,000 ดอลล่าร์ - มี Account กว่า 225 ล้าน Accounts ที่มี Credit Card พร้อมซื้อขายโปรแกรมเพียงแค่ 1 Click หลังจากที่อัพเดทข่าวสารจนครบ Scott Forstall ก็พาเข้าสู่ iOS5 ซึ่งมี API ใหม่ให้นัก พัฒนาใช้เพิ่มเติมอีก 1,500 APIs, และมี Features ใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 200 Features แต่ว่า จะหยิบยกแค่ 10 Key Features เด็ดๆบน iOS5 มายกตัวอย่างให้ดูกัน การออกมาแก้ปัญหาที่ค้างกันมาในส่วนนี้ โดยมาคราวนี้ได้ใส่ในส่วน Notification Center เข้าไป ซึ่งตัว Feature จะอยู่ตรง Status bar และใช้นิ้วลากลงมาเหมือน Android ไม่มีผิด เพื้ยน ซึ่งการทำแบบนี้จะไม่เป็นการบังหน้าจอหลัก โดยตัว Notification Center จะแสดง ผลระบบ Notification ของทุกโปรแกรมไม่ว่าจะเป็น Stock, Mail, Message เป็นต้น และ ยังแสดงผลในหน้า App ต่างๆได้ รวมถึงที่ LockScreen อันที่ 2 เป็นส่วนของ NewsStand ที่เป็นในส่วนการรองรับระบบการซื้อขาย Magazine Online ที่มีรูปแบบแปลกไปจากเดิม ก็คือเป็นชั้นหนังสือสำหรับ Magazine Online ที่ซื้อมานั่นเอง โดยมีแหล่งซื้อขาย Magazines ที่ได้รับความร่วมมือจากหลาย สำนักทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารดังๆของโลก อาทิ New York Times, SF Chronicle, Daily Telegraph, Van ity Fair, Popular Science, Esquire, GQ, Oprah เป็นต้น ซึ่งสะดวก ต่อคนที่ชอบอ่านหนังสือเพราะมันจะรวมกันอยู่ที่เดียวเพื่อให้เข้าถึงง่าย อันที่ 3 เป็นส่วนของ Twitter Integration ซึ่งทาง Scott Forstall ได้บอกไว้ว่ามี คนส่งทวีตมากกว่า 1 พันล้านครั้งต่อสัปดาห์ โดยการทำในครั้งนี้ทำให้ผู้ใช้งาน iOS ใช้ ระบบ Twitter ได้ง่ายขึ้น แค่ Login ครั้งเดียวเท่านั้น โดยจะมี Tweet Sheet ที่สามารถเรียก ออกมาเพื่อทำการ Tweet ได้ทันที ตัวระบบสามารถ Tweet รูปภาพผ่าน App ทั้ง Camera และ Photo ได้ รวมถึง Safari ที่สามารถส่งหัวข้อขึ้นไปยัง Twitter ได้ และ Maps ที่ สามารถส่ง Location ไปยัง Twitter ได้ นอกจากนี้มันยังถูกควบเอาไปรวมไว้กับ Contact เพื่อให้สามารถจัดการ Contact ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย หัวข้อที่ 4 ในเรื่องของ Safari โดยทาง Apple ได้ออกมาบอกว่า iOS นั้นมี Safari ที่กินส่วนแบ่ง Mobile Web Browser ได้ถึง 2 ใน 3 จากตลาดทั้งหมด โดยการมาครั้งนี้ก็ เลยจัดการอัพเดทในส่วนของ Safari Reader ที่สามารถทำให้อ่านพวก Article Bookmark บน Safari ได้ดีขึ้นทั้งยังสามารถส่ง Link และ Preview ย่อผ่าน E-Mail ได้ทันทีอีกด้วย รวมถึงมีระบบ Reading List ที่เปิดดูในส่วนของ Reader ที่ Bookmark ไว้ได้โดยจะแยก หัวข้อที่ยังไม่ได้อ่านออกมาให้เห็นกันชัดๆอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่งนของ Tab ที่รอ คอยกันมานาน เพิ่มเข้ามาให้ได้ใช้งานกันเหมือนบน Desktop อีกด้วย หัวข้อที่ 5 Reminders เป็นในส่วนของ List ที่เอาไว้เตือนว่าสิ่งที่ต้องทำมีอะไร บ้าง โดยตัวโปรแกรมจะ Sync กับ Cal เพื่อทำการอัพเดทอัตโนมัติ และมีระบบเตือนที่ ทันสมัยอิงกับ Location ได้อีกด้วย หัวข้อที่ 6 เป็นการอัพเดทในส่วนของ "กล้อง" แต่ก่อนจะพูดถึงทาง Scott Forstall ได้บอกว่า iPhone 4 ถือเป็นกล้องยอดฮิตของถาพที่ถูกอัพโหลดขึ้นไปบน Flickr ดังนั้นกล้องบน iOS สำคัญมากๆ ซึ่งการมาครั้งนี้ได้เพิ่มในส่วนของ - Lock Screen Shortcut เข้าไปซึ่งถ้าใครมี Passcode ก็สามารถถ่ายได้โดยไม่ต้องใส่ Code แต่ว่าพวกรูปภาพนั้นการจะเข้าไปดูได้ต้องใส่ Code ก่อน - สามารถใช้ปุ่ม Volume Rocker เป็นปุ่ม Shutter ได้เรียบร้อยแล้ว - ระบบ AE และรับบ Auto Focus แบบ Lock - สามารถซูมได้ด้วยการใช้ Pinch Zoom - ระบบ Edit รูปภาพทันที ทั้งสามารถ Crop, Rotate, Reduce Red-Eye หัวข้อที่ 7 เป็นเรื่องของ Mail Apps โดยได้เพิ่ม Feature ในส่วนของ Rich-text formatting ที่สามารถปรับตัวอักษรเอียงหรือหนาได้, indentation control ระบบเพิ่มหรือ ลดความยาว Link, draggable addresses ซึ่งสามารถทำให้ย้ายรายชื่อบนหัวข้อ To, CC และ BCC ได้อย่างง่ายๆ, ระบบ Search Entire Message, Flag Messages ที่สามารถมาร์ก Mail ที่ต้องการไว้ได้, เพิ่มระบบ S/MIME ที่เป็นระบบเข้ารหัสความปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้ ใส่ฟังก์ชันส่วนของ Dictionary เข้าไปด้วยเพื่อแปลภาษาโดยสามารถดึงโปรแกรมไหนก็ ได้ที่มีในเครื่องมาใช้งานได้ทันที ที่เด็ดอีกอย่างนึงคือระบบ Keyboard แยกที่สามารถ แยกจากกันเป็น 2 ฝั่งสำหรับคนที่มือใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้นในการพิมพ์ หัวข้อที่ 8 PC Free เป็นระบบแยกตัวออกจากคอมยิ่งด้วยตัว iPad ที่ทาง Apple บอกว่าเป็น Post PC ดังนั้นก็เลยจัดการระบบให้ง่ายขุ้นโดยการ Activate เครื่องโดยที่ไม่ จำเป็นต้องต่อคอมพิวเตอร์โดยจะมีระบบ Setup ในตัวเครื่อง รวมถึงระบบการอัพเดท OS แบบ OTA (Over The Air) นอกจากการอัพเดท OS แล้วยังจะมีส่วนของการอัพเดทอื่นๆ ผ่าน OTA อีกด้วย หัวข้อที่ 9 Game Center โดยนาย Scott Forstall ได้บอกว่ามี Games และ โปรแกรม Entertainment มากกว่า 100,000 โปรแกรมแล้ว โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมามีผู้ใช้ งาน Game Center ถึง 50 ล้านคน ก้าวกระโดดกว่า XBox Live mี่ต้องใช้เวลาถึง 8 ปี ถึงจะมีคนเล่นถึง 30 ล้านคน โดยตอนนี้เองสามารถดาวน์โหลดเกมโดยตรงผ่านทาง Game Center ได้เรียบร้อยแล้ว มีในส่วนของระบบนับแต้ม, ระบบค้นหาเพื่อน, ดูเพื่อน ของเพื่อน, ระบบค้นหาเกม และมี Turn Based Game ซึ่งเป็นเกมที่เล่นได้เลยใน โปรแกรมอีกด้วย หัวข้อสุดท้าย หัวข้อที่ 10 คือ iMessage ที่ได้เปลี่ยนการแสดงผลใหม่ เข้ามาและ ได้เพิ่มในส่วนของ Notification ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในขณะเล่น Apps อื่นๆอยู่ก็สามารถ รับรู้ได้ทันที ตัวโปรแกรมยังออกมารองรับ iDevice ทั้ง iPhone, iPad และ iPod Touch อีกด้วย ทำให้เชื่อม iDevice เข้าหากันได้ครบทั้งหมดผ่าน iMessage ทั้งสามารถ ส่งทั้ง Text Message, Photo, Video, Contact และ ระบบ Message กลุ่มได้อีกด้วย โดยทั้ง หมดนี้ทำผ่านระบบเครือข่าย Wi-Fi หรือ 3G นอกจาก 10 อย่างที่พูดไปด้านบนแล้วยังมีในส่วนของ Feature อื่นๆที่ไม่ได้พูดถึงอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Airplay Mirroring, Multitasking Gesture, New iPad App Music เป็นต้น โดย iOS5 มีกำหนดปล่อย SDK และตัว Beta ให้กับนักพัฒนาวันนี้ และตัว OS จะมาจริงใน ช่วงถดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้และตัวอุปกรณ์ที่อัพเดทได้ก็คือ iPhhone 3GS, iPhone 4, iPad, iPad2, iPod Touch 3,4 gen 1. โชว์ระบบแจ้งเตือนแอพพลิเคชั่นด้านบน 2. Lock screen notifications 3. Notification Center ระบบแจ้งเตือนแบบใหม่ 4. Notifications Swipe เพื่อเปิดการใช้งานแอพ 5. Notification options สามารถเลือกการใช้งานแอพฯ อื่นๆ ผ่าน Notification 6. Notification sorting by app, time etc. โชว์รายละเอียดแอพฯ เรียงลำดับจากเวลาใช้ รายชื่อ ฯลฯ 7. iMessage ส่งข้อความระหว่าง iOS5 devices รองรับ Wi-Fi หรือ 3G 8. Newstand เหมือน iBooks to store ดาวน์โหลดแมกกาซีน subscriptions และประเด็นฮอตในแต่ละวัน 9. Reminders ระบบแจ้งเตือน ที่ทำงานร่วมกับปฎิทิน 10.Twitter Integration รวบระบบ Twitter เข้ามา สามารถทวีตแชร์ข้อความจากบราวเซฮร์ Safari, Photos, YouTube etc. 11. AirPlay ที่ใช้ใน iPad2 เพื่อการเชื่อมต่อรับชมภาพยนตร์บนโทรทัศน์ 12. iCloud บริการฝากไฟล์แบบกลุ่มเมฆ ฟรี 5GB สามารถแชร์ระหว่าง iOS devices ได้ 13. เปิดใช้งาน แอพฯ Camera จาก lock screen ทัชปุ่ม Home 2 รอบ 14. กดปุ่ม Volume up แค่นั้น ก็สามารถถ่ายรูปได้แล้ว 15. Camera Grid เพื่อการโฟกัสยังจุดที่คุณต้องการได้แม่นยำขึ้น 16. Camera Zoom: Pinch-to-zoom Gesture ในตัว 17. ทัชเดียวเพื่อ Auto Focus และ Auto Exposure 18. สามารถ Lock Auto Exposure และ Auto Focus ได้อย่างเที่ยงตรง 19. Swipe ไปทางซ้ายเพื่อเปิด camera roll 20. Crop Photos 21. Enhance Color tones of photos 22. Rotate Photos 23. Red-eye removal เลือกเอา Red-eye ออกใน Photos 24. Photo Stream เชื่อมต่อสู่ iCloud สามารถดูรูปได้ทุกอุปกรณ์ iOS 25. Organize photos จัดการภาพใน Camera Roll 26. Safari Reader เหมือน RSS reader 27. Safari Reading List จัดเก็บเว็บไว้อ่านในสถานะออฟไลน์ได้ 28. Improved Performance Like it was enhanced in 4.3.3 29. Private Browsing ความปลอดภัยในการท่องเว็บเหมือนบราวเซอร์ Firefox / Incognito บน Chrome. 30. Website specific สามารถเก็บข้อมูลเว็บไซต์และลบได้ 31. Cut the cord Activate ตั้งค่าอุปกรณ์ iOS โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Mac หรือ PC 32. Over-The-Air (OTA) iOS Software Updates อัพเดทซอร์ฟแวร์ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ Mac หรือ PC 33. Delta Software Updates อัพเกรดเฉพาะไฟล์ ไม่ต้องดาวน์โหลด หรือ ลง Install ลักษณะเดียวกับ WordPress 34. Wi-Fi Sync ซิงค์ อุปกรณ์ iOS บน PC หรือ Mac ผ่าน Wi-Fi 35. Backup / Restore ได้จาก iCloud account 36. Sync Exchange tasks 37. Downloads ดูรายชื่อแอพที่ดาวน์โหลดไปแล้วจาก App Store ได้จากอุปกรณ์ iOS 38. Rich Text Formatting ซัพพรอตตัวอักษรสำหรับการพิมพ์บนอีเมลล์ (Bold, Italics, Underline, etc.) 39. แก้ไขอีเมลล์ในแบบ offline ได้ 40. Drag-able email addresses ทำการลาก email addresses ลง CC, BCC 41. Improved mail search เซิร์ชอีเมลล์ได้จากเนื้อหาแบบสมบูรณ์ 42. Flag Emails 43. S/MIME Security 44. Profile picture สำหรับ Game Center 45. Friend recommendations สำหรับGame Center 46. Games recommendation 47. Friends-of-friends list 48. App Store in Game Center: App store ทำงานร่วมกับฟีเจอร์ค้นหา/ซื้อ Apps , Games 49. New Achievements like Perks, Points 50. Play turn-based games within Game Center 51. New Keyboard Shortcuts 52. Emoji Emoticons ระบบ Emoticons ที่คุ้นตาใน IMs มาแล้ว สำหรับอุปกรณ์ iOS devices และจะปรากฎบน iMessage! 53. LED Flash สำหรับสายเรียกเข้าการแจ้งเตือนต่างๆ 54. ตั้งค่า vibration สำหรับการเรียกเข้าได้ 55. VoiceOver improvements ตั้งค่าเสียงของเรา 56. Custom tones สำหรับ Calendar events 57. Custom tone สำหรับ Received Mail 58. Custom tone สำหรับ Sent mail 59. Custom tone สำหรับ Voice-mail 60. Week view บน Calendar สำหรับ iPhone & iPod 61. Music & Video แยกเป็น 2 แอพฯ 62. เลื่อนดูไตเติ้ลเพลงที่ยาวๆ ได้ 63. Song description: Tap & hold บนชื่อเพลงเืเพื่อดูรายละเอียด 64. Smart Playlists ซิงค์ playlists ได้จาก iTunes. 65. Weather สภาพอากาศอัพเดทเป็นชั่วโมง 66. สภาพอากาศตาม locations สามารถกำหนดเองได้ 67. Alternate routes บนแผนที่ 68. ปริีนส์แผนที่รวมถึงทิศทาง 69. Twitter Pictures สามารถใช้รูปภาพ ในแต่ละผู้ติดต่อบน Twitter ได้ 70. Auto Download สำหรับ Newstand issues, apps , subscribed. 71. Sync in background บนอุปกรณ์ iOS 72. Links in background ไม่ว่า Safari links, iTunes links สามารถเปิดได้ในภายหลัง 73. กำหนดพื้นที่ใช้งานในแต่ละแอพฯ ได้ , ตั้งค่าสนับสนุนในแต่ละประเภทไฟล์ 74. กำหนด ตั้งค่าพื้นที่การใช้งานบน iCloud 75. เปลี่ยนชื่ออุปกรณ์ iOS ได้ เพื่อสะดวกในการเชื่อมต่อ 76. ปรับปรุงกราฟฟิคยูสเซอร์อินเตอร์เฟส 77. Personal Dictionary สร้า้งพื้นที่คำศัพท์ส่วนตัวและนำกลับมาใช้ได้ง่าย 78. Built-in Dictionary 79. iTunes Tone Store: Choose, Buy, Install กำหนดได้เอง 80. Improved FaceTime วีดีโอละเอียดขึ้น 81. VoiceOver ใช้เสียงเลือกไอเท็ม 82. Speak Text พูดเพื่อพิมพ์ 83. Delete recent calls ลบสายสนทนา, สายสนทนาล่าสุด 84. Delete app data ลบข้อมูล saved games ข้อมูลบางแอพฯ ได้ 85. ตั้งช่วงเวลา mid-call สำหรับสายเรียกเข้า 86. Download Multiple Apps 87. Delete songs ตรวจสอบลบเพลงบนอุปกรณ์ iOS ได้เลย 88. New Keyboard Shortcuts: Type OMG and it will type Oh My God. 89. Custom Text Tones ปรับ SMS โทนได้ 90. ออโต้ซิงค์และแบ็กอัพ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญหายแอพฯ ใดๆ 91. เชื่อมลิงค์ไปยังราคาในแอพฯ ที่จ่ายตังค์แล้ว จากนั้น Install ได้เลย 92. Silent Switch เข้าสู่โหมดไซเลนได้จากไอค่อนระฆัง 93. Hotmail accounts มีไอค่อนและโฟลเดอร์ 94. Sync events, contacts, notes จาก accounts ภายใต้แอพฯ Mail เหมือน Hotmail, Gmail 95. Marked Apps หลังจากดาวน์โหลดแอพไปแล้ว จะโชว์ Free ในกรณี ที่เสียตังค์ ลบแอพฯ ทิ้งและจะดาวน์โหลดใหม่ 96. Arabic language สำหรับ VoiceOver 97. Icon Badges Option ON / OFF โชว์สีแดง เมื่อมีการอัพเดท 98. Accessible input for mobility 99. Assistive Touch Gestures เชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นเพื่อใช้งานทัชสรีนได้ง่าย 100. FaceTime บน 3G 101. Unsecured call notifications 102. Mid-call Invitation Alert เมื่อโทรไปแล้วสายไม่ว่างจะพาคุณสู่โหมดของการประชุม 103. อีเมลล์แอดเดรสบน iCloud , iOS 5 จะใช้ @me.com ฟรีนะ!! 104. Custom Gestures สามารถกำหนด gesturesในแบบตัวเองได้ 105. Swipe-Left ดู day-view ใน Calendar 106. Face-Time สามารถ activated หมายเลขโทรศัพท์ email address (Apple ID) 107. สายเรียกเข้าที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ จะแสดงสถานที่อยู่ของหมายเลขนั้น 108. แจ้งเตือนแบบสั่นสามารถใช้ได้กับ การรับส่ง emails 109. Real-Time stock updates 110. Multiple Mark Read ใช้งานอีเมล์ได้ทีหลาย Account 111. Pause Timer จับเวลา 112. New German Keyboard 113. Social Networking Integration: Facebook, Flickr, LinkedIn, MySpace along with Twitter กำหนด/ตั้งค่า 114. Headphone Balance กำหนดความบาลานซ์ของหูฟัง 115. Mono audio option สำหรับ headphones 116. Cellular Network for App Store Enable / Disable เครือข่ายเคลื่อนที่สำหรับ App Store (GPRS, 3G) 117. Disable In-App Purchase 118. iTunes Password Prompt เซทความถี่และพาสเวิร์ดสำหรับ iTunes 119. Storage Usage Clean Up เครียร์พื้นที่หน่วยความจำแบบเดี่ยว wipe ข้อมูลแอพฯ , Game, Music, Videos etc. 120. Equalizer Presets ปรับแต่งเสียงเบสให้ดีขึ้น 121. Improved Sound Check สำหรับ music 122. RSA ID is now available เมื่อทำการเซต VPN. 123. Folders for Mail 124. Find My iPhone ทำงานร่วมกับ iCloud สามารถ disable ได้ 125. Scrolling Titles สำหรับ YouTube videos 126. Double tap ในปุ่ม home button บน YouTube เพื่อดูผู้ที่อัพโหลดวีดีโอขึ้นมา 127. เข้าสู่ HD YouTube อัตโนมัติ เมื่อเชื่อมต่อ 3G 128. Option to disable HQ (HD) video playback over 3G 129. กดถ่ายรูปเมื่อหูฟังคุณเป็นรีโมทในตัว โดยกดปุ่ม Volume Up (Very useful if you have a tripod. Please confirm if anyone saw this!) 130. Animated GIF image support สำหรับ iMessage 131. สามารถ Hold และ drag กิจกรรมบนวันที่และเวลาที่แตกต่าง 132. Current time บน Calendar เมื่อใช้ landscape mode 133. New voices สำหรับ Voice-Over 134. Option to display Stock & Weather widgets ใน Notification Center 135. เพิ่มความสัมพันธ์ในครอบครัวบน contacts. 136. ตั้งข้อจำกัดร่วมกับ password สำหรับโหมดในการซื้อต่างๆ 137. Enable / Disable voice-dial เมื่อตั้ง security ร่วมกับ pass-code lock. 138. ประวัติการสั่งซื้อบน app store 139. Automatically set time ใน iPod Touches 140. ออโต้ตัวเลือกตรวจคำ 141. แสดงข้อมูลเพลงแบบ Broadcast ได้เช่นในรถยนตร์ หลังเปิดการใช้งาน Bluetooth 142. New keyboard # (hash-tag) และ @ (mention) สำหรับ Twitter และ ‘.com’ บน Safari address bar. 143. iPod app renamed to Music 144. ปรับเปลี่ยนเมลล์ Mail ใน แอพเมลล์ แบบ offline และจะซิงค์เมื่อเข้าสู่ online อีกครั้ง 145. Help center เรียนรู้เพิ่มเติมในทุกตัวเลือกการตั้งค่า 146. แจ้งเตือนบนบาร์ เมื่อลืมสร้า้ง subject 147. Hourly Weather Forecasts สถานะอัพเดท ชั่วโมงต่อชั่วโมง 148. En dash (–) เพื่อดูและใส่ En dash. 149. Third-party Cables สนับสนุน all third-party TV เคเบิล โดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง Cydia อีกต่อไป 150. เลือกประเภท Notificationได้ว่าจะให้แสดงแบบแบนเนอร์หรือ pop-up bar 151. Mail Sidebar สไลด์เพื่อออก 152. Install Twitter จาก Settings app เป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ถูกผสานเข้ามา 153. Tweet Location ใน Maps 154. Tweet Picture จาก camera roll 155. Tweet Website URL จาก Safari 156. Tweet Video จาก YouTube 157. Backup homescreen layout บน iCloud ต้องคอนเฟิร์ม 158. Backup app data บน iCloud เช่น game saves etc. 159. Backup purchased music, apps และ books บน iCloud 160. Backup SMS และMMS 161. Backup ringtone(s) 162. Backup contacts 163. Schedule daily OTA (Over the air) iCloud backup 164. Message / iMessage แจ้งเตือนซ้ำ 10 ครั้ง 165. iOS crash reports ถึง Apple Send อัตโนมัติ เมื่อมันไม่ send. 166. Nuance Speech to Text ยังไม่สามารถใช้ได้อยู่ในขั้นเบต้า 167. Sync bookmarks highlight จาก iBooks ข้ามอุปกรณ์ 168. iMessages แสดงเป็นบอลลูนสีฟ้า 169. Group messaging ใน iMessage 170. Delivery Reports 171. Read receipts สำหรับ iMessage ต้อง enable 172. ดูว่าอีกฝั่งกำลังพิมพ์อยู่ใน iMessage 173. Add Social Media info ลงใน contacts 174. rounded toggle switch แบบใหม่ Video app & icon แบบใหม่ 175. Nitro JavaScript เพิ่มความเร็วใน Web Apps 176. iMessage สามารถส่ง text message ในกล่อง iMessage เมื่อไม่สามารถใช้ได้ 177. ตั้งค่า vibrationในแต่ละ contact 178. New ‘Message’ option บน iPod Touch ภายใต้ settings ร่วมกับ iMessage 179. Setup อุปกรณ์ AirPort 180. เพิ่มการรับ email messages เป็น 1000 จากเดิม 200 181. Create & manage photo albums ใน แอพฯ Photos 182. ตั้งค่า lock-screen ตามใจชอบ เช่น ต้องลาก หรือต้องการ pass-code 183. Double tap ปุ่ม home บน lock screen เพื่อถ่ายรูปบน iPod ตั้งค่าใน camera options. 184. SMS tones 185. While reading an email swipไปทางขวา เพื่อเปิดรายชื่อ messages และ swipe ซ้ายเพื่อกลับมาอ่าน email 186. ถ้าใช้แบบหลายอีเมลล์ multiple email accounts สามารถตั้งค่าในแอพฯ Mail swipe ซ้าย หรือ ขวา เพื่อเลือก account จาก mailboxes ได้เลย 187. iTunes App สนับสนุน match & find เพลงที่ใกล้เคียงกัน 188. Free upgrade เพลง 256 kbps bit-rateเมื่ออัพมันขึ้น iCloud 189. Support หลากหลายอุปกรณ์ฟังเพลง 190. Mirror iPhone 4 บน Apple TV 191. ชื่อของคนที่ส่งข้อความแสดงเป็นสีฟ้าอ่อนด้านบน 192. ซ่อน keyboard ใน Messages สามารถดึงขึ้นและลงได้ 193. ตั้งค่า tone สำหรับ Reminders 194. ดีไซน์ classic pop-up notifications เป็นแบบ Glossy 195. Slide to View/Reply ใน new message 196. ปรับเปลี่ยนศูนย์กลางแจ้งเตือน 197. WiFi sync เช่น apps, songs and their names เหมือนใน iTunes. 198. Notification center displays Calendar tasks ต่อเนื่องในแต่ละวัน 199. Videos ใน apps และ websites สามารถทำงานร่วมกับ enabled for AirPlay เป็นมาตรฐาน. 200. เปลี่ยนกราฟฟิคยูสเซอร์อินเตอร์ บน Clock app 201. OTA updates บนเครือข่าย WiFi และ 3G 202. ดูนามสกุลไฟล์ JPG / PNG เมื่อเปิด ‘Edit’ ในแอพฯ Photos 203. ‘Tell a Friend’ ใน AppStore สามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆ พร้อมการแชร์เหมือนใน Facebook ที่แสดงลิงค์ pop-up ชื่อ thumbnail และรายละเอียดไปด้วย 204. Delete apps ขณะดาวน์โหลดหรือติดตั้ง 205. “Group by Album Artist” ออฟชั่นใน Music 206. Slight re-design for text messages. Font & time-stamp layout 207. Slight re-design for video time-line under Photos app 208. รองรับ HTML5 เร็วมาก support rate 31 fps. (Google Chrome 12 on Windows was 33 fps, iPhone 3Gs with 4.3.3 was 3 fps, Firefox 5 was 25 fps) 209. Kinetic scrolling ข้อความใน Safari. 210. New icon design สำหรับ Reminders 211. send หรือ do not send รายละเอียด location กับทาง Apple 212. System-wide location services ควบคุมร่วมกับแอพฯ ที่เรามี 213. ปรับเปลี่ยนการทำงานได้อย่างรวดเร็ว 214. Voice roaming ON / OFF toggle เหมือน Data Roaming toggle 215. Advanced preferences ใน Safari สำหรับลบข้อมูลบางส่วนและ ข้อมูล debug 216. สร้า้ง mailboxes จาก แอพฯ Mail 217. Advanced Assistive Touch ควบคุมในฟังค์ชั่น panel & functions 218. กำหนด tones ได้ทุกสิ่งการแจ้งเตือน 219. Music app มี ‘Store’ อยู่ใน iTunes Store 220. Airplay สามารถทำงานร่วมกับ Facetime call สามารถทำให้คุณเห็นบน TV ได้ 221. Documents / Data สามารถเลือกเพื่อ sync ขึ้น iCloud account. 222. disable iCloud Sync ร่วมกับบริการค่ายมือถือจะช่วยประหยัดงบพวกบริการข้ามพรมแดน 223. Wireless sync บน Windows, in-app และ website videos สามารถทำงานร่วมกับ AirPlay 224. Hearing Aid Mode 225. New Camera Button 226. Microphone button สำหรับ Nuance Speech-to-text ใกล้ๆ space-bar key 227. iOS 5 รองรับ 4G / LTE (Long Term Evolution) 228. Built-in Earthquake Notification for Japanese Users ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ 229. New Cards app 230. Find Friends & Familyง่ายดายขึ้น ทั้ง social-networking และลักษณะของ Foursquare / Sonartype app. 231. สั่งงานด้วยเสียงไปกับ Siri ใน iPhone4Gs และที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือแหล่งที่ผมอ้างอิงมาครับ http://pdamobiz.com/forum/forum_posts.asp?TID=480449&PN=6 http://www.mxphone.com/article/10068/Apple-iOS-5-200-New-Features-10-Keys-Features |
อืม มาคอมเม้น ดีนะ
ReplyDeleteแล้วไม่เห็นเขียนทัชสกรีนเลย
เอา review หน่อยจิ os5
งงคำว่า ไม่เห็นเขียนทัชสกรีน
ReplyDeleteคัฟ ^^
น่าจาหมายถึง พวก gesture ช่ายม่าย
ช่ายๆ เรื่องพวกนี้ ไม่ค่อยมีคนพูดถึงมันเลย
แต่ผมไปหามาให้แล้ว เย้ๆๆๆๆ
http://itcupboard.blogspot.com/2011/10/assistive-touch-ios5.html
ไปดูเพิ่มกานเลย