และในบทความนี้ผมจะขอเสนอ 5 สิ่งมหัศจรรย์ที่จะทำให้คุณถูกขโมยข้อมูล ซึ่งที่จริงมันมีมากกว่านี้ แต่ที่ผมกล่าวในบทความนี้ ถือเป็น สิ่งที่เสี่ยงอันดับต้นๆ ที่จะทำให้คุณถูกขโมยข้อมูลได้ง่ายที่สุด
1. แฟลซไดด์ (Flash Drive)
แฟลซไดด์ ถือเป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่สะดวก และนิยมมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งสิ่งนี้เองที่ส่งผลให้ เหล่าบรรดาอาชญากรทางคอมพิวเตอร์ หาวิธีเขียนคำสั่ง เพื่อให้โปรแกรมขโมยข้อมูลทำงานอัตโนมัติ หลังจากที่เสียบแฟลซไดด์ลงไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังจะเห็นได้จากไฟล์ autorun.inf หรือพวกไวรัส มัลแวร์ ที่ชอบแพร่เชื้อผ่านแฟลซไดด์
2. จุดเชื่อมต่อแบบไร้สายวายฟาย (Wi-Fi)
เมื่อก่อนการที่คุณจะนั่งเล่นอินเตอร์เน็ต จำเป็นต้องใช้สายแลน ในการเชื่อมต่อ แต่ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์ไร้สาย หรือ เรียกสั้นๆว่า วายฟาย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสะดวก และไม่จำกัดพื้นที่การใช้ ซึ่งสิ่งนี้แหละที่ส่งผลให้คุณอาจถูกขโมยข้อมูลง่ายๆ โดยไม่รู้ตัว เพราะมันส่งข้อมูลผ่านอากาศ เช่น คุณอาจจะเล่นวายฟายอยู่ในบ้าน แต่เพื่อนบ้านของคุณก็สามามารถดักข้อมูลได้ เพราะวายฟายมันทะลุกำแพง (-*-) ตราบใดที่เครือข่ายวายฟายคุณไปไกลเท่าใด คุณก็ยิ่งมีโอกาสถูกขโมยข้อมูลจากบุคคลคนอื่นๆมากขึ้นเท่านั้น
3. อีเมล์ (E-Mail)
อีเมล์ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเข้าถึงข้อมูลของคุณได้อย่างง่ายๆ ถ้าคุณไม่รู้จักป้องกันตัวให้ดี เพราะที่ผ่านมามีเหยื่อหลายคนมักหมดตัวไปกับการ “แค่เปิดอีเมล์ขึ้นมาอ่าน” เช่น อีเมล์หลอกลวงให้ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี เพลงฟรี หรือหนังฟรี สุดท้ายติดไวรัส หรือมัลแวร์ ฟรีๆ แล้วโดนขโมยข้อมูลอย่างสบายใจ ฟรีๆ ตามกันไปเลย โดยที่คุณไม่รู้ตัว หรืออีกกรณีหนึ่งที่ผมชอบมาก คือ อีเมล์จากทาง facebook ที่หลอกให้คนเข้าไปยืนยันการใช้งาน มิฉะนั้นจะถูกลบบัญชี ซึ่งจริงๆแล้ว มันไม่ใช่อีเมล์จาก facebook แต่เป็นอีเมล์ปลอม ซึ่งเมื่อเหยื่อบางคนหลงตัวคลิ๊กเข้าไปยังเว็บไซต์ แล้วกรอกรหัสผ่าน สุดท้ายกลับโดนขโมยข้อมูลไปซะเองอย่างหน้าตาเฉย
4. คนแอบดูข้างหลัง (ภาษาอังกฤษ คืออะไรฟ่ะ)
อันนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ถึงคุณจะคิดว่า เค้าไม่ได้คิดจะประสงค์ร้ายกับคุณหรอก แต่เหตุการณ์พวกนี้ก็มักเกิดขึ้นบ่อยๆนะครับ อย่าคิดเป็นเรื่องไร้สาระไป เพราะการที่มีคนมายืนอยู่ข้างหลังคุณ แล้วคุณมั่วแต่เล่นคอมไปเถอะ ระหว่างนั้นคนที่อยู่ข่้างหลังคุณ ก็รู้แล้วว่ามือคุณพิมพ์รหัสอะไร หรือคุณชอบทำอะไร หรือคุณเก็บไฟล์สำคัญไว้ที่ไหน เพียงเท่านี้ก็โดนไปเต็มๆ ดอกแล้วครับ
5. ความโง่เขลาส่วนบุคคล (Personal stupidity)
ข้อนี้ผมไม่ขออธิบายนะครับ เพราะคุณน่าจะรู้ดีว่า “ไม่มีซอฟท์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์ใดๆ ที่จะสามารถแก้ไขความโง่ของมนุษย์ได้” เพราะถ้าคุณยังหลงเชื่อ หรือ ไม่รู้จักการป้องกันตัวเองให้ดีแล้วล่ะก็ ท้ายที่สุดตัวคุณเองนั้นแหละที่หยิบยื่นข้อมูลของคุณไปให้คนอื่นเค้าขโมยซะเอง
ป.ล. ชื่อเรื่องของบทความนี้ มันไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์หรอก แต่ผมตั้งให้มันเท่ห์ๆไปงั้นแหละ ^_^
ที่มาบทความครับ : http://www.idatabase.in.th/2011/06/01/steal-information-hack
People standing behind you
ReplyDelete55 ช่ายเลยยยย
Delete